วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561

พิธีขอมาครูอาจารย์อภิธรรม




 (ตัวแทน) ปาเจราจริยา โหนติ คุณุตตรานุสาสกา



(นักเรียนทุกคน)
ข้าขอประณตน้อมสักการ  บูรพคณาจารย์   ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา
ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา  แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าขอเคารพอภิวันท์(อบ – พิ – วัน) ระลึกคุณอนันต์  ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา  อีกวิริยะพา  ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสำเร็จทุกประการ  อายุยืนนาน  อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าและประเทศไทยเทอญ

(ตัวแทนนักเรียน) ปัญญาวุฑฒิ กเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหัง

คำนมัสการอาจริยคุณ

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

อนึ่งข้าคำนับน้อม ต่อพระครูผู้การุญ

โอบเอื้อและเจือจุน อนุสาสน์ทุกสิ่งสรรพ์

ยัง บ ทราบก็ได้ทราบ ทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน

ชี้แจงและแบ่งปัน ขยายอัตถ์ให้ชัดเจน

จิตมากด้วยเมตตา และกรุณา บ เอียงเอน

เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์ ให้ฉลาดและแหลมคม

ขจัดเขลาบรรเทาโม- หะจิตมืดที่งุนงม

กังขา ณ อารมณ์ ก็สว่างกระจ่างใจ

คุณส่วนนี้ควรนับ ถือว่าเลิศ ณ แดนไตร

ควรนึกและตรึกใน จิตน้อมนิยมชม



คำขอขมาต่ออาจารย์

อาจริเย ปมาเทน, ทวารตฺตเยน กตํ, สพฺพํ อปราธํ, ขมตุ โน ภนฺเต.

ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้กระทำการล่วงเกินต่อท่านอาจารย์ ด้วยความประมาท ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ด้วยตั้งใจก็ดี ด้วยไม่ตั้งใจก็ดี

ขอท่านอาจารย์กรุณาอดโทษให้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด

เพื่อที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย จะได้สำรวมระวังในคราวต่อไป

(พระอาจารย์กล่าวตอบ) อหํ ขมามิ, ตุมฺเหหิปิ เม ขมตพฺพํ.

อาจารย์อดโทษให้แก่ท่านทั้งหลาย แม้ท่านทั้งหลายก็พึงอดโทษให้แก่อาจารย์ด้วย

(นักศึกษากล่าว) ขมาม ภนฺเต.

ข้าพเจ้าทั้งหลาย อดโทษให้แก่ท่านอาจารย์ (ถ้าท่านอาจารย์กล่าวเฉพาะบาลี นักศึกษาก็ไม่ต้องกล่าวภาษาไทย)



1.

ครูคือ ผู้อบรม บ่มนิสัย

เป็นเทียนไข ส่องสว่าง สู่ทางฝัน

ครูเป็นนัก แก้ปัญหา สารพัน

ช่วยสร้างสรรค์ สังคม ให้ร่มเย็น

ชั่วชีวิต ของครู คือผู้ให้

ไม่เคยหวัง ว่าจะได้ หรือดีเด่น

ชีวิตครู สู้ตรากตรำ อย่างลำคํญ

เพียงเพื่อเห็น ความสัมฤทธิ์ ของศิษย์ตน

ครูเป็นครู ทุกยาม ในความคิด

อบรมศิษย์ และสอนสั่ง ใช่หวังผล

ไม่ว่าศิษย์ จะยากดี มีหรือจน

ครูทุกคน ห่วงใยเขา เท่าเท่ากัน





2.

ใครคือครู ครูคือใคร ในวันนี้

ใช่อยู่ที่ ปริญญา มหาศาล

ใช่อยู่ที่ เรียกว่า ครูอาจารย์

ใช่อยู่นาน สอนนาน ในโรงเรียน

ครูคือผู้ ชี้นำ ทางความคิด

ให้รู้ถูก รู้ผิด คิดอ่านเขียน

ให้รู้ทุกข์ รู้ยาก รู้พากเพียร

ให้รู้เปลี่ยน แปลงสู้ รู้สร้างงาน

ครูคือผู้ ยกระดับ วิญญาณมนุษย์

ให้สูงสุด กว่าสัตว์ เดรัจฉาน

ครูคือผู้ ส่งสม อุดมการณ์

ปณิธาน เพื่อคนอื่น ใช่ตัวเอง

ครูจึงเป็น นักสร้าง ผู้ยิ่งใหญ่

สร้างคนจริง สร้างคนกล้า สร้างคนเก่ง

สร้างคนให้ เป็นตัว ของตัวเอง

ขอมอบเพลง นี้มา บูชาครู



3.

เปลวเทียนละลายแท่ง เพื่อเปล่งแสงอันอำไพ

ชีวิตมลายไป เหลือสิ่งใดไว้ทดแทน

ชีวิตไร้สาระขณะนี้ ยังไม่สายเกินที่จะแก้ไข

แม้นชีวิตเหลือน้อยลงเพียงใด ควรภูมิใจ ที่ได้ทำดีทัน

มีใครเห็นหรือไม่ เป็นใครเล่า ตัวของเรา ควรทำดี ที่สร้างสรรค์

มีใครเห็นหรือไม่ ไม่สำคัญ ใจเรานั้น รู้ว่าดี เท่านี้พอ



4.

กล้วยไม้ออกดอกช้า ฉันใด

การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น

แต่ดอกออกคราวใด งามเด่น

งานสั่งสอนปลูกปั้น เสร็จแล้ว แสนงาม



5.

แม้ครูแม้นแผ่นฟ้าสูงกว่าสูง ศิษย์คือยูงเยี่ยมฟ้าเวหาหาว

แม้ครูเหมือนเดือนแรงแสงสกาว ศิษย์คือดาวเด่นอยู่คู่ดวงเดือน

แม้ครูแม้นแผ่นภพครบคุณค่า ศิษย์คือหญ้ายิ่งดูมีอยู่เกลื่อน

แม้ครูคล้ายสายน้ำความเย็นเยือน ศิษย์เสมือนมัจฉาพาสราญ

แม้ครูคล้ายสายลมที่พรมพลิ้ว ศิษย์คือริ้วระลอกกระฉอกฉาน

แม้ครูคล้ายสายฝนหล่นตามกาล ศิษย์เปรียบปานป่าไม้สวนไร่นา

แม้ครูคล้ายไม้ที่มีผลดก ศิษย์คือนกเนาอยู่รู้คุณค่า

แม้ครูเป็นเช่นธรรมพระสัมมา ศิษย์คือสาวกนำธรรมสืบไป

แม้ครูเหมือนเรือนตายหมายมั่นอยู่ ศิษย์คือผู้พร้อมมาพักอาศัย

แม้ครูเป็นเช่นแรงแสงเทียนชัย ศิษย์ย่อมไม่มืดมนทุกหนทาง

พระคุณครูผู้ให้จึงใหญ่ยิ่ง ไม่เคยทิ้งทอดศิษย์คิดเหินห่าง

แต่ศิษย์กลับลับหายเหมือนวายวาง ปล่อยครูแจวเรือจ้างอย่างช้ำใจ



6.

กลางความมืดยืดยาวหนาวฉะนี้ เทียนริบหรี่ดวงหนึ่งเพิ่งทอแสง

จากดวงหนึ่งจุดต่อไปไฟจึงแรง แม้ลมแกล้งก็มิหวั่นอันตราย

แสงเทียนทองส่องสว่างทางชีวิต ส่องความคิดความรู้ครูทั้งหลาย

จากหัวใจใสสว่างงามพร่างพราย จุดประกายการศึกษามหาชน

เทียนย่อมร้อนย่อมไหม้เพื่อให้แสง ยิ่งไฟแรงยิ่งสลายละลายหล่น

น้ำตาเทียนเปรียบค่าน้ำตาคน อุทิศตนมิได้หวังในรางวัล

เทียนคือครูผู้ให้ไฟชีวิต ให้ความรู้คู่ความคิดแก่ศิษย์ขวัญ

จงให้แสงแรงกล้าร่วมฝ่าฟัน จงพร้อมกันจุดบูชาค่าของครู

กลิ่นหญ้าแพรกดอกมะเขือเจือกลิ่นธูป ก่อเป็นรูปวันพิธีมีความหมาย

เพื่อระลึกนึกถึงครูผู้พลีกาย สองมือหมายปั้นศิษย์ตนเป็นคนดี

ปาเจราเปล่งมาด้วยเคารพ จริยาน้อมนบบทถวาย

โหนตุแด่คุณครูมิรู้คลาย คุณุตตราไหว้นุสาสักการะคุณ



7.

ครูคือ แสงทองชีวิต ครูคือ ดวงจิตอันสูงค่า

ครูคือ ผู้ที่ให้วิชา ครูคือ ผู้ที่พาเราก้าวไกล

ครูคือ ยานวิเศษลำไม่น้อย ครูคือ ผู้ที่คอยเอาใจใส่

ครูคือ หลักนำประจำใจ ครูคือ หลักชัยของชีวิต



8.

เป็นแสงธรรมนำทางสร้างชีวิต เป็นผู้คิดสื่อสารงานศึกษา

เป็นผู้รู้ประสิทธิ์วิทยา เป็นศาสตราคอยคุ้มครองผองเด็กไทย

เป็นแม่พิมพ์กำหนดบทบาทศิษย์ เป็นผู้ชี้แนวชีวิตที่ฝันใฝ่

เป็นผู้นำพาชาติปราศพิษภัย ค่ายิ่งใหญ่เกินกล่าวขานคืองานครู



9.

ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร แต่ต้องคิดวาดวางกางแผนผัง

ครูมิใช่นายทุนหนุนกำลัง ต้องเก็งทั้งขาดทุนตุนกำไร

ครูมิใช่พ่อค้านายพาณิชย์ ดีดลูกคิดคาดการณ์ด้านไหนไหน

แต่ยังเป็นผู้ค้าอย่างเต็มใจ ยอมขาดทุนตลอดไปชั่วนิรันดร์

ครูมิใช่นักปกครองช่ำชองศึก แต่ก็คึกคะนองปกป้องขั้น

ครูมิใช่นักวิชาการเชี่ยวชาญครัน แต่โชกโชนด้วยผูกพันวิชาการ

ครูมิใช่นักแสดงโลกแสงสี แต่สวมบททุกที่ด้วยอาจหาญ

ครูมิใช่ผู้กำกับผู้บงการ แต่เฉียบขาดในแผนงานการบัญชา

ครูมิใช่นักพากย์ฝีปากจัด แต่สัมผัสการพากย์ยากจะหา

ครูมิใช่ผู้ทรงศีลธรรมจรรยา แต่เมตตาแผ่เผื่อเกื้อการุณย์

นี่แหละครูเป็นได้หลายสถาน ทุกเหตุการณ์ช่วยฉุดช่วยอุดหนุน

ช่วยเผื่อแผ่แก้ไขช่วยค้ำจุน ผู้มีคุณเปื่อมแน่อย่างแท้จริง







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อนันตริยกรรม

อนันตริยกรรม สารานุกรมเสรีอนันตริยกรรม หมายถึง กรรม หนักที่สุด (ครุกรรม) ฝ่ายบาปอกุศล ซึ่งให้ผลทันที มี 5 อย่าง คือ มาตุฆาต - ฆ่ามารดา ปิตุ...